เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด(Wood Pellets)
ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น เหง้ามันสำปะหลัง ซังข้าวโพด เปลือกยูคาลิปตัส หรือเศษไม้ ปีกไม้ที่ได้จากอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เช่น ปลายไม้ ปีกไม้ยางพาราเป็นต้น และต้นไม้โตเร็ว เช่น ต้นตะกู ต้นกระถินยักษ์ นำมาผ่านกระบวนการย่อยและลดความชื้นแล้วนำมาอัดเป็นแท่งจากนั้นจึงนำไปลดอุณหภูมิ ก่อนจัดเก็บเข้าไซโล (Silo) โดยสามารถรักษาความชื้น (Moisture Content) อยู่ในระหว่าง 8 -15% ได้ค่าความร้อนสูง (High-Heating Value) เหมาะกับการนำไปใช้งานเป็นเชื้อเพลิงในบอยเลอร์หรือเครื่องกำเนิดไอน้ำ (Boiler) หรือใช้ในเตาเผา (Stove) สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
|
คุณสมบัติของเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet)
|
ข้อดีของเม็ดเชื้อเพลิงชีวมวล
1. สะดวกในการขนส่งประหยัดค่าขนส่งเนื่องจากมีความหนาแน่นสูง(bulk density)ประมาณ 700-1100 กิโลกรัม/ลูกบากศ์เมตร 2. สามารถควบคุมปริมาณการใช้ได้ง่ายเพราะมีขนาดที่เท่าๆกัน ทำให้มีอัตราการเผาไหม้ที่สม่ำเสมอและการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ 3. มีขี้เถ้าน้อยกว่าชีวมวลประเภทอื่น 4. ให้พลังงานความร้อนมากกว่าชีวมวลประเภทอื่น (High Heating Value) 5. ค่าความชื้นต่ำ (น้อยกว่า10%) 6. เป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หนึ่งในก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน (Global Warming) เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาชีวมวลจะถูกหมุนเวียนกลับไปใช้โดยพืชเพื่อสังเคราะห์แสง (Carbon Offset) และทางโรงงาน ผู้ใช้เชื้อเพลิงยังสามารถมาตรขอ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์”เพื่อเพิ่มโอกาสสำหรับผู้ส่งออก 7. ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเชื้อเพลิงพลังงานฟอสซิล (Fossil Fuel) เช่น น้ำมันดิบ (Fuel Oil) ก๊าซธรรมชาติ (NGV) ก๊าซหุงต้ม (LPG) |
วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559
เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด(Wood Pellets)
วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559
ความหมายของชีวมวล
ชีวมวล (Biomass)
ชีวมวล (Biomass) คือ สารอินทรีย์ที่เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานจากธรรมชาติและสามารถนำมาใช้ผลิตพลังงานได้ เช่น เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหรือกากจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น แกลบ ได้จากการสีข้าวเปลือกชานอ้อย ได้จากการผลิตน้ำตาลทรายเศษไม้ ได้จากการแปรรูปไม้ยางพาราหรือไม้ยูคาลิปตัสเป็นส่วนใหญ่ และบางส่วนได้จากสวนป่าที่ปลูกไว้กากปาล์ม ได้จากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบออกจากผลปาล์มสดกากมันสำปะหลัง ได้จากการผลิตแป้งมันสำปะหลังซังข้าวโพด ได้จากการสีข้าวโพดเพื่อนำเมล็ดออกกาบและกะลามะพร้าว ได้จากการนำมะพร้าวมาปลอกเปลือกออกเพื่อนำเนื้อ มะพร้าวไปผลิตกะทิ และน้ำมันมะพร้าวส่าเหล้า ได้จากการผลิตอัลกอฮอล์เป็นต้นชีวมวล สามารถเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานได้ เพราะในขั้นตอนของการเจริญเติบโตนั้น พืชใช้คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ
แล้วเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์โดยผ่านกระบวนการ สังเคราะห์แสงได้ออกมา เป็นแป้งและน้ำตาล แล้วกักเก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของพืช ดังนั้น เมื่อนำพืชมาเป็นเชื้อเพลิง เราก็จะได้พลังงานออกมา การใช้ประโยชน์ จากพลังงานชีวมวล สามารถใช้ได้ ทั้งในรูปของพลังงานความร้อน ไอน้ำ หรือผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า โดยจะใช้ เชื้อเพลิงชีวมวล ชนิดใดชนิดหนึ่งที่กล่าวมาข้างต้น หรือหลายชนิดรวมกันก็ได้ชีวมวลจึงเป็นแหล่งเชื้อเพลิงราคาถูก หากมีการใช้ประโยชน์ในบริเวณที่ไม่ไกลจากแหล่งเชื้อเพลิงมากนัก เพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง ชีวมวล มีอยู่ทั่วไปในประเทศไทย การนำชีวมวลมาใช้จึงช่วยลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศในการนำเข้าเชื้อเพลิงและสร้างรายได้ให้กับคนท้องถิ่น นอกจากนี้การผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวมวลด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม จะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและไม่สร้างสภาวะเรือนกระจกเนื่องจากการปลูกทดแทนทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดการหมุนเวียนและไม่มีการปลดปล่อยเพิ่มเติมเรายังมุ่งหวังว่าการพัฒนาโครงการเกี่ยวกับชีวมวลจะสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งและ การมีส่วนร่วมของชุมชนได้อีกด้วย
องค์ประกอบของชีวมวล
องค์ประกอบของชีวมวลหรือสสารทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือ
ความชื้น (Moisture) ความชื้นหมายถึงปริมาณน้ำที่มีอยู่ ชีวมวลส่วนมากจะมีความชื้นค่อนข้างสูง เพราะเป็นผลผลิตทางการเกษตร ถ้าต้องการนำชีวมวลเป็นพลังงานโดยการเผาไหม้ ความชื้นไม่ควรเกิน 50 เปอร์เซ็นต์
ส่วนที่เผาไหม้ได้ (Combustible substance)ส่วนที่เผาไหม้ได้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Volatiles matter และ Fixed Carbon Volatiles matter คือส่วนที่ลุกเผาไหม้ได้ง่าย ดังนั้นชีวมวลใดที่มีค่า Volatiles matter สูงแสดงว่าติดไฟได้ง่าย
ส่วนที่เผาไหม้ไม่ได้ คือขี้เถ้า (Ash)ชีวมวลส่วนใหญ่จะมีขี้เถ้าประมาณ 1 -3 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นแกลบและฟางข้าว จะมีสัดส่วนขี้เถ้าประมาณ 10 -20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีปัญหาในการเผาไหม้และกำจัดพอสมควร
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)